8 วิธีเลือกกระเป๋าเดินทางที่ใช่สำหรับคุณ
(ฉบับนักเดินทางรุ่นใหม่ Smart Traveller เลือกซื้ออย่างฉลาดและสร้างสรรค์)
สำหรับนักเดินทางแล้ว ไอเทมที่ชีวิตนี้ต้องมีคงหนีไม่พ้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ สามารถใส่เสื้อผ้าสัมภาระได้ 3-4 วัน ยิ่งถ้าใครเดินทางบ่อยๆ กระเป๋าเดินทางนี่สำคัญมาก แต่ถ้าใครที่เพิ่งจะลองเลือกซื้อครั้งแรก แล้วไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรดี วันนี้ Pegasus รวบรวมวิธีเลือกกระเป๋าเดินทางให้เหมาะสมกับคุณมาฝากกันค่ะ
1. ไซส์หรือขนาดของกระเป๋า
อันดับแรกให้เลือกจากขนาดของกระเป๋าก่อน การเดินทางของคุณครั้งนี้คุณจะไปใช้ชีวิตต่างถิ่น (ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ) กี่วัน ให้เลือกใช้ตามนั้น
- - กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 18-20 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 2-4 วัน
- - กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 24 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 5-7 วัน
- - กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 28 นิ้ว เหมาะสำหรับเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ขึ้นไป
รวมขนาดกระเป๋าเดินทาง PEGASUS (เล็ก-กลาง-ใหญ่)
2. วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า
โดยทั่วไปกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากแบ่งได้ 2 แบบ คือ
- - แบบ Soft Case : กระเป๋าเดินทางแบบ Soft Case ส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมไนลอน มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดี แต่ข้อเสียคือหากใช้ไปนานๆ บวกกับการยัดของลงกระเป๋าอย่างบ้าระห่ำ รูดซิปยากเย็นบ่อยๆ อาจทำให้กระเป๋าขาดทะลุได้ ส่วนการทำความสะอาดทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดฝุ่นละอองออก นำไปผึ่งลมให้แห้งป้องกันการเกิดเชื้อรา
- - แบบ Hard Case : กระเป๋าแบบ Hard Case ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนความร้อนสูง น้ำหนักเบา กันน้ำได้ และไม่ทำให้สิ่งของภายในกระเป๋าเกิดความเสียหาย ราคาแอบแพงกว่าแบบแรกนิดหน่อย
3. เลือกตามจุดประสงค์การใช้งาน
ถ้าเลือกจากจุดประสงค์ของการเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก ก็อาจจะเลือกจากลักษณะงานที่ไป เช่น
- - เดินทางไปติดต่อเรื่องงาน ควรใช้กระเป๋าแบบ Hard Case มากกว่า เพราะทำให้คุณดูภูมิฐาน ดูดี ไม่โลว์คลาส เน้นใช้สีพื้นๆ เรียบๆ แต่หรู เช่น สีดำ สีเทา สีกรมหรือน้ำเงินเข้ม สีแดงเข้ม ไม่ควรมีลวดลายอื่นๆ มา เสริม
- - เดินทางไปเที่ยว ใช้กระเป๋าได้ทั้งแบบ Hard Case และแบบ Soft Case เลือกรูปทรงและสีสันได้ตามใจชอบ
- - เดินทางไปเรียนต่อ หรืออยู่ต่างถิ่นนานๆ เป็นเดือน อันนี้ก็สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ แต่เน้นขนาดกระเป๋าให้ใหญ่พิเศษ เน้นความทนทาน เพราะต้องหอบหิ้วสัมภาระไปจำนวนมาก
4. ล้อกระเป๋า
- กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากมีทั้งแบบ 2 ล้อ และแบบ 4 ล้อ เราแนะนำว่าให้เลือกแบบ 4 ล้อจะดีกว่า เพราะสามารถหมุนได้รอบ เวลาลากกระเป๋าไปตามสถานที่ต่างๆ จะได้ลากได้ลื่นมือ ไม่มีสะดุด สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยผ่อนแรง
5. กุญแจ กระเป๋าเดินทาง (ตัวล็อกกระเป๋า)
- Standard Lock กุญแจมาตรฐาน คือกุญแจสามารุตั้งรหัสได้ 3 ตัวเลข ตั้งแต่ 000-999 ผู้เดินทางสามารถตั้งรหัสเพื่อป้องกันการจรกรรม และเพื่อความปลอดภัยของกระเป๋า และสัมภาระด้านใน เป็นกุญแจที่ได้รับความนิยม สามารถใช้และเดินทางไปได้ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกประเทศ ราคาย่อมเยาว์ ใช้งานง่าย
- TSA LOCK (TSA AMERICAN STANDARD KEYS) กุญแจมาตรฐานสากล ที่ทั่วโลกยอมรับ หากคุณเป็นคนที่เดินทางต่างประเทศบ่อย ไม่หลายทวีป หรือมีแพลนเดินทางไปทวีป อเมกา ยุโรป เราแนะนําคุณเลือกกระเป๋าเดินทางที่ใช้ ตัวล็อก TSA คุณจะมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการเดินทาง ข้อดีของกุญแจ TSA คือ หาก คุณนําสิ่งที่ห้ามโหลดติดกระเป๋าเดินทางไป อาธิเช่น ไฟแชก พาวเวอร์แบงค์ ของมีคม หรือของต้องสงสัย เจ้าหน้าที่สนามบินสามารถเปิดกระเป๋าของคุณออกมาได้เพื่อตรวจสอบ โดยที่เค้าไม่ต้องทําการงัดแงะกระเป๋าของคุณให้เสียหาย ระหว่างที่คุณได้เข้าไปในตัวสนามบินแล้ว เคยสงสัยหรือไม่ว่าทําไมกุญแจตั้งรหัสกระเป๋าถึงไม่มีแม่กุญแจมาด้วย เหตุเพราะแม่กุญแจสากลหรือ TSA lock คนที่มีแม่กุญแจคือเจ้าหน้าที่พนักงานประจําสนามบิน หรือสายการบิน เมื่อเค้าพบเจอสิ่งของต้องสงสัย เค้าจึงสามารถเปิดกระเป๋าของคุณมาตรวจสอบสิ่งของด้านในได้ทันที เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ดังนั้นกระเป๋าที่มีกุญแจtsa จึงมักมีราคาสูงกว่ากุญแจstandard
5. ช่องใส่ของภายใน
- กระเป๋าบางรุ่นจะมีแค่ช่องกว้างๆ ใส่ของแค่ 2 ส่วน คือ ส่วนของตัวกระเป๋า และส่วนของฝากระเป๋า แต่บางรุ่น เขาออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีช่องเล็กๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีก 4-5 ช่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่การเก็บของให้มากขึ้น ถ้าสาวๆ มีของจุกจิกเยอะ ก็แนะนำให้เลือกกระเป๋ารุ่นแบบนี้ จะสะดวกมากๆ เลยจ้า
6. หูหิ้วกระเป๋า
- หูหิ้วของกระเป๋าเดินทางควรทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นดี สังเกตจากหูหิ้วของกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก หูหิ้วควรยึดติดกระเป๋าได้เป็นอย่างดี และถ้าเป็นแบบคันชัก ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทางเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เสียในระหว่างการเดินทาง เพราะหากคันชักเสีย กระเป๋าเดินทางจะเคลื่อนย้ายลำบาก ต้องหิ้วแทน ก็จะเพิ่มความลำบากให้การเดินทางไปอีก
7. เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ
- กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไม่ได้แปลว่าจะหนักกว่าใบเล็ก กระเป๋าเดินทางทุกขนาดจริงๆ แล้วมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 3-4 กิโลกรัม บางคนก็คิดว่าไหนๆ จะซื้อแล้ว ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ลงทุนซื้อใบใหญ่ไปเลยก็แล้วกัน อันนี้ก็ไม่ผิด แต่สำหรับบางคนที่เป็นคนตัวเล็ก หรือเป็นคนปวดหลังบ่อย เราก็ไม่แนะนำให้ซื้อใบใหญ่ ให้ใช้ใบขนาดพอดีๆ ที่คุณสามารถยกมันได้จะดีกว่า อย่างไรก็ตามการซื้อกระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง ถ้าเลือกดีๆ อายุการใช้งานใช้ได้นาน 4-5 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า
8. เลือกตามสีที่ชอบ หรือ กระเป๋าสีมงคล
- กระเป๋าเดินทางสมัยนี้มีหลายสีให้ท่านเลือก ไม่ว่าจะเป็นโทนอ่อนหรือโดทนเข้ม แต่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มูไม่มูไม่ว่า จะดีกว่าไหมหากเราเลือกซื้อกกระเป๋าเดินทางสีมงคลที่ถูกโฉลกกับดวงชะตานักเดินทาง มีเป็นเจ้าของสักใบ เพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง
เมื่อรู้เคล็ดลับแล้ว เราไปช้อปปิ้งกระเป๋าเดินทางกันดีกว่าค๊าา
อยากสั่งผลิตกระเป๋าพรีเมี่ยม สกรีนโลโก้ตามสั่งได้ กับโรงงานกระเป๋าโดยตรง คลิ้ก !
สนใจสั่งซื้อหรือสอบถาม
Tel : 098-354-4155
Facebook inbox : http://m.me/Pegasus.luggage
Line : https://lin.ee/W00bW4x
Website : https://pegasus-luggage.com/
TIKTOK : https://www.tiktok.com/@pegasus.luggage
.
สั่งซื้อออนไลน์
Lazada : https://s.lazada.co.th/l.UbN
Shopee : https://shp.ee/npsjc82
Line Shopping : https://shop.line.me/@srz4122o